กัน จอมพลัง จวกเต้ยับ หุบปาก อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เวลาของคุณ

“กัน จอมพลัง” ฟาดกลับ “เต้ มงคลกิตติ์” อย่ามายุ่ง กลับไปเล่นแถวพระราม 7 เถอะ เผย คุณตารู้ว่ามีคนตั้งค่าหัวถึงกับจะถอดสายน้ำเกลือไม่ยอมรักษาต่อ

วันที่ 21 เมษายน 2568 กัน จอมพลัง ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อ “เต้ มงคลกิตติ์” หรือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หลังอีกฝ่ายออกมาเตือนให้เขาหยุดเคลื่อนไหว เพราะถูกตั้งค่าหัวแล้ว โดยกันมองว่าคำเตือนนี้ “เลอะเทอะ” และเต็มไปด้วยการสร้างเรื่องเกินจริง

กัน จอมพลัง จวกเต้ยับ หุบปาก อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เวลาของคุณ

กัน จอมพลัง จวกเต้ยับ หุบปาก อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เวลาของคุณ

 

“ถ้ารู้จริงนัก ก็กล้าพูดชื่อ “นายใหญ่” ออกมาเลย ไม่ใช่โยนลอย ๆ เหมือนละครน้ำเน่า” กันกล่าว พร้อมโต้กลับกรณีที่เต้ตำหนิเขาเรื่องการเข้าไปยุ่งมากเกินไปในคดีของสองตายาย โดยระบุว่า หากเขาไม่เข้าไปช่วย แล้วใครจะยื่นมือไปดูแล

เขาเผยว่า คุณตาผู้ประสบเหตุเครียดถึงขั้นพยายามถอดสายน้ำเกลือและไม่อยากรักษาตัว เพราะหวาดกลัวจากข่าวที่ว่ามีการตั้งค่าหัว “ถ้าผมไม่เข้าไปดูแล แล้ววันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับตายาย? ลองคิดกลับกันบ้าง”

กันยังตั้งคำถามว่า เต้เข้ามายุ่งเพราะไม่พอใจในตัวเขาหรือเปล่า พร้อมพาดพิงว่า “หรือว่าคุณอยู่ฝั่งเดียวกับคนก่อเหตุ?”

เจ้าตัวชี้แจงชัดเจนว่าไม่ได้เรียกร้องให้คู่กรณีต้องซื้อบ้านหรือรถใหม่ให้ครอบครัวผู้เสียหาย เพียงแต่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลและสภาพรถที่เสียหาย ซึ่งก็ยังเปิดทางให้มาพูดคุยถึงแนวทางจัดการร่วมกันได้ แต่หากอีกฝ่ายจะทำแค่ในแบบของตน โดยไม่เปิดโอกาสให้ครอบครัวตายายพูดอะไรเลย แบบนั้นยอมรับไม่ได้

กัน จอมพลัง จวกเต้ยับ หุบปาก อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เวลาของคุณ

 

“เรื่องโทรศัพท์จากพี่ชายผมก็เคลียร์ไปแล้ว มันเป็นการรักษาน้ำใจ ไม่อยากให้เรื่องมันแตกหัก พูดตรง ๆ ก็คือ ไม่อยากหักหน้าใคร แต่ขอให้พูดความจริง อย่าปั้นแต่งอะไรเกินไปกว่านี้”

กันยังเหน็บแรงว่า “น่ารำคาญมาก คุณเต้ คุณพูดแล้วคุณตาไม่ยอมรักษาต่อ ซี่โครงหักตั้งหกซี่ ยังต้องดูดน้ำออกจากปอด แต่คุณกลับมาพูดไม่คิด ผลกระทบมันตกอยู่ที่ใคร? คำพูดของคุณมันไม่รับผิดชอบเลย ถ้าจะพูดเอาแสง ก็ช่วยคิดหน่อยว่าแสงที่คุณได้ มันอาจทำให้คนอื่นต้องเสียชีวิต”

เขาทิ้งท้ายแบบไม่อ้อมค้อมว่า “กลับไปเล่นแถวพระราม 7 เถอะ พอเถอะคุณเต้ มันไม่ใช่เรื่องของคุณ!”

ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงการ “ถอยคนละก้าว” กันย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิกทำคดีนี้ เพียงแต่อยากให้ทั้งสองฝ่ายเปิดใจยอมรับกันและกันบ้าง โดยเขายังยืนยันว่าจะเดินหน้าทำต่อไป ไม่ได้หยุด ไม่ได้ถอย และไม่ได้ทำเพราะกระแสแฟนคลับ แต่เพราะครอบครัวของผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือ